สำหรับคนที่คิดอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง หรือคนที่ต้องการสร้างและขยายครอบครัวในอนาคต การนำเงินสดหลายล้านไปซื้อบ้านเลยนั้น คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ การมีเงินออมนั้นสำคัญมากสำหรับการกู้ซื้อบ้าน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นเก็บออมอย่างไร เรามี 5 เทคนิคเก็บเงินซื้อบ้าน มาฝาก
1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะหากมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วเราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการเก็บเงินของเราได้ โดยอาจจะเริ่มจากการสำรวจความต้องการของตัวเองก่อนว่าตัวเองต้องการบ้านแบบไหน หรือไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบไหน ต้องการบ้านที่อยู่ในเมืองหรือนอกเมือง การเดินทางจากบ้านไปที่ทำงานเป็นอย่างไร สะดวกสบายหรือเปล่า ทำเลที่ตั้งของบ้านที่เราต้องการเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่เราคิดว่าเราจะต้องใช้ชีวิตตรงนั้นไปอีกนาน เมื่อสำรวจความต้องการของเราได้แล้ว ก็จะสามารถประเมินคร่าวๆ ได้ว่าหน้าตาของบ้านที่เราต้องการควรจะเป็นแบบไหน งบประมาณที่ต้องใช้เป็นเท่าไหร่
2. เก็บเงินเท่าๆ กันทุกเดือน โดยออมเงิน 20-25% ของราคาบ้าน เพราะโดยปกติแล้วสถาบันการเงินจะปล่อยเงินกู้อยู่ที่ 80% ของราคาประเมินบ้าน อาจมีค่าดำเนินการอื่นๆ อีกประมาณ 5% นำไปฝากบัญชีประจำให้แยกบัญชีออมเพื่อบ้านนี้ออกจากบัญชีอื่นๆ และคิดไว้เสมอว่า เงินส่วนนี้ “เพื่อบ้านในฝันเท่านั้น”
3. ทำเงินให้งอกเงย การเก็บเงินไว้ในบัญชีอาจได้ดอกเบี้ยแสนต่ำ การนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง เลือกช่องทางการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสูง อย่างซื้อกองทุนรวม การลงทุนในกองทุน LTF/RMF การลงทุนพันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนควรศึกษาข้อมูลการลงทุนต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
4. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น นอกจากต้องออมเงินเป็นประจำทุกเดือนแล้วการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นก็เป็นสิ่งสำคัญ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง บุฟเฟ่ต์มื้อแพงๆ ปาร์ตี้แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ ก็ควรงดไว้บ้าง หรือในแต่ละเดือนเราอาจจะลิสต์รายจ่ายไว้เลยว่าแต่ละเดือนเรามีรายจ่ายประจำอะไรบ้างทำให้เราสามารวางแผนการเงินได้ ส่วนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นที่เราเคยใช้อยู่บ่อย ๆ ก็สามารถเอาเงินส่วนนั้นมาสมทบเป็นเงินออมเพิ่มได้
5. หาอาชีพเสริม นอกจากงานที่ทำประจำแล้วอาจจะไม่เพียงพอในการเก็บออม การหางานพิเศษทำเสริมเพิ่มรายได้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี อาจจะทำอาชีพเสริมช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อคุณมีอาชีพเสริมก็หมายความว่า รายได้ต่อเดือนจะเพิ่มมากขึ้น และความสามารถในการเก็บเงินก็เพิ่มตามไปด้วย
เพียงคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีวินัย มีความอดทนในการอดออม ทำอย่างสม่ำเสมอ และท่องเอาไว้ว่า “เพื่อบ้าน” การมีบ้านในฝันคงจะไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
ภาพโดย HobokenHome7 จาก Pixabay